วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2562

โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารา ภายใต้แนวทางพัฒนา ยางพาราทั้งระบบ (วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท)

“โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราภายใต้แนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบ
                              



โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารา ภายใต้แนวทางพัฒนา
ยางพาราทั้งระบบ วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท

1. วัตถุประสงค์โครงการ
                
1.1 เพื่อสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการลงทุนแก่สถาบันเกษตรกร นำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต/ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานแปรรูปยางที่จัดสร้างไว้แล้ว และ/หรือลงทุนจัดสร้างโรงงานใหม่ในการแปรรูปยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่า
                1.2 เพื่อสนับสนุนสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรในการแปรรูปยางพารา
                1.3 เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ในกระบวนการสหกรณ์

2. คุณสมบัติของผู้กู้
                2.1 กรณีสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร
                  1)  เป็นสถาบันเกษตรกรที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ให้รวมถึงกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยกลุ่มเกษตรกร พ.ศ. 2547 และผู้กู้ต้องมีลักษณะตามข้อบังคับธนาคารฉบับที่ 20 26 และ 31 ต้องไม่มีการทุจริตหรือข้อบกพร่องในการดำเนินงานที่เป็นสาระสำคัญ หรือถ้ามี สถาบันเกษตรกรต้องดำเนินการแก้ไขจนเป็นที่พอใจของธนาคารแล้ว(ข้อบกพร่องที่เป็นสาระสำคัญ ได้แก่ ทุจริต ปิดบัญชีไม่ได้ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นสุดบัญชีโดยเกิดจากข้อบกพร่องของสถาบันเกษตรกรเอง ขาดทุนสะสมเกินกว่า ปีบัญชี ขาดทุนเกินกึ่งหนึ่งของทุนเรือนหุ้นมีบัญชีเจ้าหนี้เงินกู้มากกว่าลูกหนี้เงินกู้ มีผลการดำเนินงานขาดทุนติดต่อกัน ปี
                2)  
ปัจจุบันสถาบันเกษตรกรยังดำเนินธุรกิจแปรรูปยางอย่างต่อเนื่อง                          
                
3)  มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินงาน ตลอดจนมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานอย่างเพียงพอ เหมาะสมกับธุรกิจ เช่น โรงงานแปรรูปยางแท่ง โรงงานยางแผ่นรมควัน ยางอัดก้อน โรงงานยางคอมปาวด์ โรงงานน้ำยางข้น โรงงานยางเครป โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางสำเร็จรูป มีอาคารสถานที่สำหรับเก็บรักษาผลิตผลการเกษตรที่เหมาะสม มั่นคง แข็งแรง ฯลฯ
                
4)  คณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการ และเจ้าหน้าที่ของสถาบันเกษตรกรให้ความร่วมมือกับธนาคารด้วยดีเสมอมา
                
5)  สถาบันเกษตรกรต้องไม่มีหนี้เงินกู้ค้างชำระกับธนาคาร
                
2.2  กรณีวิสาหกิจชุมชน
                                1)  เป็นวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2547 และผู้กู้ต้องมีลักษณะตามข้อบังคับธนาคารฉบับที่ 45  กรณีวิสาหกิจอื่นที่ทำธุรกิจยางพาราต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และต้องมีลักษณะตามข้อบังคับธนาคารฉบับที่ 45
                                2)  ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจแปรรูปยางอย่างต่อเนื่อง                        
                                3
)  มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินงาน ตลอดจนมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานอย่างเพียงพอ เหมาะสมกับธุรกิจ
                                4)  คณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการ และเจ้าหน้าที่ของวิสาหกิจชุมชนและองค์กรวิสาหกิจอื่นที่ทำธุรกิจยางพาราให้ความร่วมมือกับธนาคารด้วยดีเสมอมา
                                5)  วิสาหกิจชุมชน องค์กรวิสาหกิจที่ทำธุรกิจยางพาราต้องไม่มีหนี้เงินกู้ค้างชำระกับธนาคาร

3. วัตถุประสงค์การกู้เงิน

                สำหรับสหกรณ์ภาคการเกษตร กลุ่มเกษตรกร  และวิสาหกิจชุมชน
                
1) วัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าลงทุนนำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต/เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานแปรรูปยางที่จัดสร้างไว้แล้ว และ/หรือลงทุนจัดสร้างโรงงานใหม่ในเพิ่มมูลค่า วงเงินสินเชื่อ 3,500 ล้านบาท
                
2) วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมและรับซื้อวัตถุดิบป้อนโรงงาน  วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท                
              
4. อัตราดอกเบี้ย
                4.1  สินเชื่อเพื่อเป็นค่าลงทุน  วงเงินสินเชื่อ 3,500 ล้านบาท
                                1) กรณีสหกรณ์ภาคการเกษตร  ในช่วงโครงการฯ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2557 – 31 สิงหาคม 2567 กำหนดอัตราดอกเบี้ย MLR – 1.50 ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 5.00 ต่อปี) คิดดอกเบี้ยจากสหกรณ์ภาคการเกษตรในอัตราร้อยละ 0.50 ต่อปี รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 และกองทุนพัฒนาสหกรณ์สนับสนุนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์ภาคการเกษตรร้อยละ 0.49 ต่อปี
                                
2) กรณีกลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน  ในช่วงโครงการฯ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2557 – 31 สิงหาคม 2567กำหนดอัตราดอกเบี้ย MLR – 1.50 ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 5.00 ต่อปี) คิดดอกเบี้ยจากกลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนในอัตราร้อยละ 0.01 ต่อปี รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.49
                4.2  สินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท
                                
1) กรณีสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร  ในช่วงโครงการฯ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2557 – 31 สิงหาคม 2562 คิดดอกเบี้ยจากสถาบันเกษตรกรในอัตราร้อยละ 1 รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.49
                                2) กรณีกลุ่มวิสาหกิจชุมชน  ในช่วงโครงการฯ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2558 – 31 สิงหาคม 2562 คิดดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ 1.00 ต่อปี รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.49 ต่อปี

5. วงเงินกู้ขั้นสูง

                5.1 กรณีสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร
                                วงเงินกู้ตามโครงการฯนี้ให้พิจารณาแยกวงเงินต่างหากจากวงเงินกู้ปกติของสถาบันเกษตรกรและเมื่อรวมกับวงเงินกู้อื่นตามสัญญากู้เงินเดิมในวัตถุประสงค์การใช้เงินกู้เดียวกันทั้งหมดและวงเงินกู้ตามข้อบังคับฉบับอื่นหรือเจ้าหนี้เงินกู้อื่นหรือเงินรับฝากจากสหกรณ์อื่นและบุคคลภายนอกแล้ว ต้องไม่เกินวงเงินกู้ยืมหรือค้ำประกันประจำปีที่นายทะเบียนสหกรณ์
เห็นชอบปีล่าสุด
                5
.2 กรณีวิสาหกิจชุมชน
                                วงเงินกู้ตามโครงการฯนี้ให้พิจารณาแยกวงเงินต่างหากจากวงเงินกู้ปกติของวิสาหกิจชุมชนและองค์กรวิสาหกิจอื่นที่ทำธุรกิจยางพารา และเมื่อรวมกับวงเงินกู้อื่นตามสัญญากู้เงินเดิมต้องไม่เกิน 20 เท่าแห่งทุนตนเองตามข้อบังคับฉบับที่ 45

6. ระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้

                6.1 กรณีสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร
                                1) เพื่อเป็นค่าลงทุน กำหนดชำระไม่เกิน 10 งวด ปลอดชำระต้นเงินกู้ได้ไม่เกิน งวด คือ งวดที่ และงวดที่ แต่ต้องส่งชำระดอกเบี้ยเงินกู้ทุกปี 
                                                ช่วงระยะปีที 1 ถึงปีที่ 2 สถาบันเกษตรกรจะปลอดชำระต้นเงินกู้ แต่ต้องชำระดอกเบี้ย
เงินกู้ทุกปี
                                                - ปีที่ 3–4 สถาบันเกษตรกรต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของต้นเงินกู้ยืม
                                                - ปีที่ 5–6 สถาบันเกษตรกรต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของต้นเงินกู้ยืม
                                                - ปีที่ 7–8 สถาบันเกษตรกรต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของต้นเงินกู้ยืม
                                                - ปีที่ 9–10 สถาบันเกษตรกรต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของต้นเงินกู้ยืม
                                2) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน กำหนดให้ผู้กู้ต้องชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละรายให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันเบิกรับเงินกู้ แต่ทั้งนี้ต้องชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 31 สิงหาคม 2562

                6
.2 กรณีวิสาหกิจชุมชน
                                1) เพื่อเป็นค่าลงทุนกำหนดชำระไม่เกิน 9 งวด  ดังนี้
                                                ช่วงระยะปีที 1 ถึงปีที่ 2 ผู้กู้จะปลอดชำระต้นเงินกู้ แต่ต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้ทุกปี
                                                - ปีที่ 3–4 ผู้กู้ต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของต้นเงินกู้ยืม
                                                - ปีที่ 5–6 ผู้กู้ต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของต้นเงินกู้ยืม
                                                - ปีที่ 7–8 ผู้กู้ต้องชำระคืนต้นเงินกู้ปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของต้นเงินกู้ยืม
                                                - ปีที่ 9 ผู้กู้ต้องชำระคืนต้นเงินกู้ร้อยละ 40 ของต้นเงินกู้ยืม
                                2) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน กำหนดให้ผู้กู้ต้องชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละรายให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันเบิกรับเงินกู้ แต่ทั้งนี้ต้องชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 31สิงหาคม 2562

8. เป้าหมายและระยะเวลาการดำเนินโครงการ
                สหกรณ์ภาคการเกษตร กลุ่มเกษตรกร  และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
                1  เป้าหมาย     ดำเนินการในพื้นที่ดำเนินงานของสาขาทั่วประเทศ
                2  ระยะเวลาดำเนินการ    ตั้งแต่วันที่ กันยายน  2557  ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 

****************************** 
ช่องทางการติดต่อ
ติดต่อธนาคาร :     เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 15.30 น.
ที่อยู่ :                    ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เลขที่ 2346 ถนนพหลโยธิน
                            แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์ :               ธ.ก.ส. Call Center 0-2555-0555 บริการ 24 ชั่วโมง ทุกวัน
                            ศูนย์บริการลูกค้า 1593 บริการ ในวันและเวลาทำการ

                            สำนักงานใหญ่ 0-2558-6555



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สินเชื่อการค้าต่างประเทศ : Trade Finance

สินเชื่อการค้าต่างประเทศ : Trade Finance                                       1. คำอธิบายผลิตภัณฑ์     สินเชื่อเพื่อการนำเข้า...